อิสตันบูล (Istanbul) อิสตันบูล เมื่องสำคัญอันดับ 1 ของประเทศ เดิมชื่อ คอนสแตนติโนเปิล เป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในประเทศตุรกี ตั้งอยู่บริเวณช่องแคบบอสฟอรัส (Bosphorus) ซึ่งทำให้อิสตันบูลเป็นเมืองสำคัญเพียงเมืองเดียวในโลก ที่ตั้งอยู่ใน 2 ทวีป คือ ทวีปยุโรป (ฝั่ง Thrace ของบอสฟอรัส) และทวีปเอเชีย (ฝั่งอนาโตเลีย) ในอดีต อิสตันบูลเป็นเมืองสำคัญของชนเผ่าจำนวนมากในบริเวณนั้น จึงส่งผลให้อิสตันบูลมีชื่อเรียกแตกต่างกันออกไป เช่น ไบแซนเทียม, คอนสแตนติโนเปิล, สแตมโบล, อิสลามบูลเป็นต้น คำว่า อิสตันบูล มาจากภาษากรีก แปลว่า "ในเมือง" หรือ "ของเมือง" |
|
อ่างเก็บน้ำใต้ดินเยเรบาตัน (Underground Cistern) เป็นอุโมงค์เก็บน้ำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในอิสตันบูล สามารถเก็บน้ำได้มากถึง 88,000 ลูกบาศก์เมตร สร้างขึ้นตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 6 กว้าง 70 เมตร ยาว 140 เมตร ลึก 8 เมตร ภายในอุโมงค์มีเสากรีกต้นสูงใหญ่ตั้งแต่ค้ำเรียงรายเป็นแถวถึง 336 ต้น |
![]() |
มัสยิดสุลต่านเหม็ด หนึ่งในลักษณ์ของเมืองอิสตันบูล ผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสกว้าง 51 เมตร ยาว 53 เมตร มีหลังคาโดม ตั้งตระหง่านสุงถึง 43 เมตร เป็นมัสยิดที่ประดับด้วยกระเบื้องอิซนิกสีฟ้ากว่า 21,000 แผ่น จึงมีชื่อเรียกอีกชื่อว่า มัสยิดสีฟ้า ภาพในมัสยิดนอกจากจะโอ่โถงอลังการแล้ว ยังมีเสาขนาดใหญ่ที่ได้รับการเรียกขานว่า "เท้าช้าง" โดยมีเสา 4 ต้น ตั้งโดดเด่นเป็นโครงสร้างสำคัญ นอกจากนี้มัสยิดสีฟ้ายังเป็นมัสยิดที่มีหอสวดมนต์มากที่สุดในตรุกี คือมีถึง 6 หอ |
![]() |
ช่องแคบบอสฟอรัส ซึ่งเป็นช่องแคบที่เชื่อมทะเลดำ (THE BLACK SEA) เข้ากับทะเลมาร์มาร่า (SEA OF MARMARA) ความยาวทั้งสิ้นประมาณ 32 กิโลเมตร ความกว้างตั้งแต่ 500 เมตร จนถึง 3 กิโลเมตร ถือว่าสุดขอบของทวีปยุโรปและสุดขอบของทวีปเอเชียมาพบกันที่นี่ นอกจากความสวยงามแล้ว ช่องแคบบอสฟอรัสยังเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญยิ่งในการป้องกันประเทศตุรกีอีกด้วย เพราะมีป้อมปืนตั้งเรียงรายอยู่ตามช่องแคบเหล่านี้ ว่ากันว่าจนกระทั่งถึงยุคของการนำเอาเรือปืนใหญ่มาใช้ และไม่เคยปรากฏว่ากรุงอิสตันบูลถูกถล่มจนเสียหายอย่างหนัก มาก่อนเลย ทั้งนี้เป็นเพราะป้อมปืนดังกล่าวนี้เอง ในปี ค.ศ. 1973 มีการเปิดใช้สะพานบอสฟอรัสซึ่งทำให้เกิดการเดินทาง ไปมาระหว่างฝั่งเอเชียและยุโรปสะดวกมากขึ้น |
![]() |